มะเร็งตับมีอาการอย่างไร ?

โดยส่วนเรามักจะตรวจเจอก้อนมะเร็งในตับ เพราะไปตรวจสุขภาพโดยที่เรายังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก้อนมะเร็งขนาดเล็กๆ เช่น 1 – 3 เซนติเมตร ถ้าหากไม่ได้ไปกดอวัยวะอื่นๆใกล้เคียงในตับ ก็มักจะไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลย แต่หากก้อนมีขนาดใหญ่ เช่นมีขนาด 5 – 6 เซนติเมตรขึ้นไป บางคนอาจมีก้อนโตเป็น 10 เซนติเมตร ก็อาจจะมีอาการ

อาการที่บ่งบอกว่าเรามีความเสี่ยงเป็น"มะเร็งตับ"

  • เจ็บท้องด้านขวาบน
  • เจ็บลิ้นปี่
  • เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด

อาการดังกล่าวข้างต้น ซึ่งอาจเป็นผลจากสาเหตุของสารก่อมะเร็งมีผลต่อร่างกายโดยรวม มีผลต่อการลดภูมิต้านทานในตัวเรานั้นเอง ในบางรายที่โชคไม่ดีก้อนอาจมีการแตกโดยเฉพาะก้อนที่ติดอยู่กับผิวตับ อาจทำให้เกิดอาการช็อคหรือหน้ามืด เวียนศีรษะ เพราะตกเลือดในช่องท้อง หากมีการแตกแต่หยุดได้เองอาจพบว่ามีอาการปวดท้องและอาการซีดหรือโลหิตจางร่วมด้วย

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะทราบอยู่แล้วว่าตนเองป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ B หรือ C ซึ่งอาการของโรคตับอักเสบอาจมีมาก่อนแล้วโดยเฉพาะหากผู้ป่วยมีภาวะตับแข็งร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจจะเคยมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต บางคนอาจมีอาการท้องโตซึ่งเกิดขึ้นเพราะมีน้ำในช่องท้องเกิดขึ้นนั้นเอง

อย่างที่ได้กล่าวแล้วว่ามะเร็งตับมักจะเกิดขึ้นในตับที่มีภาวะตับแข็ง และยังมีสาเหตุของโรคตับแข็งที่เกิดได้จากสาเหตุอื่นๆที่มีในโรคไวรัสตับอักเสบ เช่น คนที่เป็นเบาหวานมาเป็นเวลานานๆ โรคพิษสุราเรื้อรัง การใช้ยาที่มีผลต่อตับ ต้องกินมาเป็นระยะเวลานานๆ และยังมีโรคแปลกๆอีกหลายโรคที่อาจทำให้เกิดภาวะตับแข็งได้ แต่สาเหตุที่กล่าวมานี้ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งได้บ่อยเท่ากับสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ

หากถามว่ามะเร็งตับมีการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์หรือไม่ จริงๆแล้วถือว่าไม่มี แต่เนื่องจากว่าคนในครอบครัวเดียวกัน เช่นพี่น้อง พ่อแม่ เดียวกัน อาจได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบมาจากพ่อแม่ จนทำให้เกิดภาวะตับอักเสบและตับแข็งเมื่อตอนโต จนนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งตับในครอบครัวบ่อยขึ้น แต่จริงๆไม่ได้เป็นการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

รศ.นพ.คมกริช ฐานิสโร
แพทย์รังสีร่วมรักษาด้านมะเร็งตับ
และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต

บทความทางการแพทย์
แพ็กเกจและโปรโมชั่น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน

ตั้งค่าคุกกี้