APPOINTMENT
นัดหมายแพทย์
APPOINTMENT
นัดหมายแพทย์
สายด่วน
02-998-9999

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้านคู่ค้า

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้านคู่ค้า
ของ
บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด

นโยบายนี้ได้จัดทำขึ้นสำหรับ บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)  ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2  และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต(“โรงพยาบาล”) เนื่องจากโรงพยาบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในฐานะที่โรงพยาบาลเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านได้ ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับโรงพยาบาลในทุกช่องทาง

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ จะใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของโรงพยาบาลไม่ว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยโรงพยาบาล หรือบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นซึ่งกระทำในนาม หรือตามคำสั่งของโรงพยาบาล

เพื่อประโยชน์ของท่านก่อนส่งข้อมูลส่วนบุคคล หรือเริ่มใช้งานเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของโรงพยาบาล ขอให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้โดยละเอียด เพื่อรับทราบถึงวิธีการที่โรงพยาบาลจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และการส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่ท่านพึงมีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ภาพรวมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้ : 

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย
  • การใช้บังคับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ช่องทางการติดต่อ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม

โรงพยาบาลจะดำเนินเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาล ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลในรูปแบบอื่นๆ ที่มิใช่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

               ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆเป็นต้น

  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมลล์เป็นต้น
  • ข้อมูลคู่ค้า เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ตั้งสำนักงาน ชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบให้
  •  ข้อมูลที่ท่านให้กับโรงพยาบาล เช่น ข้อมูลในการกรอกแบบฟอร์ม หรือข้อมูลระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมของโรงพยาบาล หรือจากการตอบคำถามระหว่างการสนทนา หรือในการทำแบบสำรวจ 
  • ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและการให้บริการของโรงพยาบาล เช่นชื่อ นามสกุล อายุ เพศ อาชีพที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยูอีเมล์ ความชอบส่วนตัว
  • ข้อมูลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลให้เพื่อที่จะเข้าร่วมในการแข่งขัน โปรโมชั่น งานแสดงสินค้า และกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของโรงพยาบาล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลที่กรอกใน “ติดต่อเรา” (“Contact Us”) หรือในช่องทางอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล
  • ข้อมูลที่รวบรวมโดยระบบในคอมพิวเตอร์ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ (IP Address) ซึ่งข้อมูลประเภทนี้จะถูกรวบรวมในขณะที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพศ อีเมล์ IP Address หรือ FacebookTwitter Google+ ในกรณีที่ท่านลงชื่อเข้าใช้ (Login) หรือแอพพลิเคชั่น (Application) หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Network) ต่างๆ ของบริษัท
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันได้แก่ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบ
  • การจัดทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาล เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์  ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบให้

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาลรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง หรือทางอ้อมจากหลายแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่ 

  • กรณีที่โรงพยาบาลเข้าทำสัญญากับท่าน  โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาลโดยตรง หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยแบบสาธารณะ  พันธมิตรทางธุรกิจของโรงพยาบาล บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล (ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการเจ้าของข้อมูล) 
  • แพลตฟอร์มออนไลน์ โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านลงทะเบียนบัญชีในระบบอินเทอร์เน็ต (User Account) การทำแบบสำรวจ การประกวด หรือการกรอกข้อมูลเพื่อรับข้อเสนอโปรโมชั่น การกดติดตามเพื่อรับข้อมูลการส่งเสริมการขาย หรือเพื่อเชื่อมต่อกับโรงพยาบาล 
  • การโต้ตอบสื่อสารออฟไลน์ โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากทางออฟไลน์ เช่น เมื่อท่านเข้ามาในสำนักงานของโรงพยาบาล เมื่อมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของโรงพยาบาลหรือการให้นามบัตร 

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

โดยทั่วไปแล้วโรงพยาบาลจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 

  • เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญา/คู่ค้าที่ได้แสดงเจตนาเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาล
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
  • เพื่อจัดหาสินค้าหรือให้บริการแก่ท่าน 
  • เพื่อปรับปรุงมาตรฐานในการสื่อสารและการบริการของโรงพยาบาล และเพื่ออำนวยความสะดวกท่านในการใช้สินค้าหรือบริการของโรงพยาบาล 
  • เพื่อติดต่อท่านในกรณีที่ท่านได้เข้าร่วมแข่งขัน ประกวด ประมูล หรือทำแบบสำรวจกับโรงพยาบาล 
  • เพื่อตอบหรือทำตามคำร้องขอหรือข้อร้องเรียนของท่าน 
  • เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด 
  • เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ ซึ่งเกี่ยวข้องและน่าสนใจสำหรับท่าน ซึ่งรวมถึงการกำหนดทิศทางการทำการตลาดเพื่อประโยชน์ของท่าน  
  • เพื่อวิเคราะห์การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของโรงพยาบาล (การโต้ตอบสื่อสาร การขาย จำนวนการนัดหมาย หรือการโทรศัพท์ติดต่อ) 
  • เพื่อเชิญท่านเข้าร่วมงานหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โรงพยาบาลเป็นผู้สนับสนุน  
  • เพื่อส่งข้อเสนอ รายการส่งเสริมการขาย หรือข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของโรงพยาบาล 
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ตามที่โรงพยาบาลแจ้งต่อท่านเป็นครั้งคราว เมื่อโรงพยาบาลขอความยินยอมท่านเพื่อจัดเก็บข้อมูล 

               โรงพยาบาลอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น เมื่อโรงพยาบาลได้รับความยินยอมจากท่าน หรือ ในกรณีที่การประมวลผลนั้นได้รับอนุญาตหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงเมื่อการประมวลผลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้  

               (ก) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

               (ข) เพื่อป้องกันหรือระงับ อันตรายต่อชีวิตร่างกาย สุขภาพของบุคคล 

               (ค) เพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมาย 

               (ง) เพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายโดยโรงพยาบาลจะพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (ตัวอย่างเช่น การขายธุรกิจหรือทรัพย์สินบางส่วนของโรงพยาบาล หรือการทำให้ได้มาซึ่งธุรกิจหรือทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนของโรงพยาบาลโดยบุคคลอื่นใด เพื่อป้องกันการฉ้อโกงหรือการกระทำผิดทางอาชญากรรม หรือเพื่อป้องกันการใช้สินค้าหรือบริการของโรงพยาบาลในทางที่ผิด ตราบเท่าที่โรงพยาบาลสามารถรักษาความปลอดภัยของระบบไอที และระบบเครือข่ายได้อย่างเต็มความสามารถ) 

               อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผ่านกระบวนการทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม (Anonymization) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด โดยไม่ขอความยินยอมจากท่าน 

               ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคลจากเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ในกรณีที่โรงพยาบาลพบว่า เราได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเด็กต่ำกว่า 10 ปี โดยไม่เจตนา โรงพยาบาลดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กออกจากระบบการเก็บข้อมูลโดยทันที อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี จากบิดามารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครองโดยตรง เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากบุคคลดังกล่าวก่อนการเก็บข้อมูล

ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ โรงพยาบาลอาจจัดเก็บข้อมูลจากผู้ปกครอง หรือผู้พิทักษ์แล้วแต่กรณี ทั้งนี้เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากบุคคลดังกล่าวก่อนการเก็บข้อมูล

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่นใดต่อบุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่ มีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เปิดเผย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลนั้นๆ จะต้องเป็นไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น  

ในการดำเนินการตามกิจกรรมทางธุรกิจของโรงพยาบาลและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้น โรงพยาบาลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับข้อมูล ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตามประเภทของผู้รับข้อมูล(ถ้ามี)  ดังที่จะได้กล่าวต่อไปนี้ (ในแต่ละประเภท ให้รวมไปถึงตัวแทน พนักงานและกรรมการของโรงพยาบาล) 

  • โรงพยาบาลอื่นๆ หรือ หน่วยงานต่างๆ ในกลุ่มโรงพยาบาล โรงพยาบาลในเครือ เมื่อมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลในโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง ให้ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถเข้าถึงได้ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลจะต้องดำเนินไปในลักษณะที่สอดคล้องกับกฎระเบียบการโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างกันขององค์กรและสอดคล้องกับแนวทางในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล 
  • ผู้จัดหาสินค้า หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล (เช่น ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการCloudผู้ให้บริการฐานข้อมูล และที่ปรึกษาที่ให้บริการคำสั่งของโรงพยาบาล) ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ให้บริการนั้นถือว่าจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้น 
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร หุ้นส่วนทางธุรกิจ บริษัทผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการ หรือผู้รับจ้างที่ทำงานในนามของโรงพยาบาล ซึ่งได้จัดหาสินค้า หรือให้บริการกับโรงพยาบาล
  • หน่วยงานด้านการรายงานข้อมูลเครดิตธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัท บัตรเครดิต หรือเดบิต เป็นต้น
  • สำนักงานทนายความ สำนักงานที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการเร่งรัดหนี้สินตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต หรือติดตามทวงหนี้ค้างชำระตามใบแจ้งหนี้
  • บุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะเข้าควบรวมกิจการ หรือซื้อกิจการ ทั้งหมดหรือบางส่วนของโรงพยาบาล  
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

ในกรณีที่โรงพยาบาลเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลใดๆ นอกเหนือจากในกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลจะทำข้อตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อกำหนดภาระหน้าที่ของแต่ละฝ่ายในการปกป้องข้อมูลจากการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่เจตนา เพื่อกำหนดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล การเปิดเผยข้อมูล ความเสียหาย สูญหาย หรือถูกทำลายของข้อมูล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขออัพเดทหรือขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงสิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

โดยท่านอาจติดต่อโรงพยาบาลผ่านทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตามสิทธิของท่านดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน สอบถามข้อสักถาม หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ท่านขอใช้สิทธิตามวิธีการที่โรงพยาบาลกำหนดและ โรงพยาบาลอาจขอให้ท่านระบุตัวตนของท่านก่อนที่โรงพยาบาลจะให้บริการตามคำขอ โรงพยาบาลจะดำเนินการตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรทางอีเมลทันทีที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ภายใน 30 วันหลังจากที่โรงพยาบาลได้รับคำร้องขอ พร้อมข้อมูลประกอบที่ชัดเจนและเพียงพอจากท่าน 

อย่างไรก็ตาม ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลมีสิทธิที่จะปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ในกรณีที่การใช้สิทธิดังกล่าวเข้าข้อยกเว้นที่กฎหมายกำหนด หรือ หากทำตามสิทธิของพนักงานอาจจะกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น 

ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล เมื่อโรงพยาบาลปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และท่านเห็นว่าการปฏิเสธนั้นไม่มีเหตุผลสมควร หรือเมื่อโรงพยาบาลไม่ได้ตอบรับคำร้องขอท่านภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้

การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมได้ตลอดระยะเวลาเท่าที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนบุคคลนี้ หรือตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือภายในอายุความการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

โรงพยาบาลได้จัดเตรียมมาตราการทั้งทางกายภาพและทางเทคนิคเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการประมวลผลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ป้องกันการทำลาย การสูญหาย เสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไข โดยอุบัติเหตุหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังรวมถึงป้องกันการใช้ การเปิดเผย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นจำกัดกลุ่มบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล  จำกัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้ กำหนดมาตรการทางวินัยกรณีมีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ชอบ เป็นต้น

ในกรณีที่ธุรกรรมบางอย่างบนเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รหัสผ่านในการลงชื่อเข้าใช้ (Log in)ท่านมีหน้าที่เก็บรักษารหัสผ่านดังกล่าวไว้เป็นความลับ โดยโรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรั่วไหล หรือถูกละเมิดจากการที่ท่านมอบรหัสผ่านของท่านให้กับบุคคลอื่น

การใช้บังคับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายนี้มีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่โรงพยาบาลเป็นผู้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย และเจ้าของข้อมูลตกลงให้โรงพยาบาลมีสิทธิในการเก็บรวบรวม และนำข้อมูลของบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่โรงพยาบาลได้เก็บรวบรวมไว้แล้ว (หากมี) ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมในปัจจุบัน และที่จะได้เก็บรวบรวมในอนาคตไปใช้ เปิดเผยแก่บุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ หากมีการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อที่อีเมล์ pdpa@patrangsit.comหรือ โทรศัพท์          02-9989999

การทบทวนนโยบาย คณะกรรมการจะทบทวนและปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม  อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

นโยบายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท  ครั้งที่ 1/2566  เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566

มีผลบังคับใช้ ณ วันที่  9  มกราคม  2566

(นายกมล  ธรรมาณิชานนท์)

ประธานกรรมการบริษัท

             นโยบายนี้ได้จัดทำขึ้นสำหรับ บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต (“โรงพยาบาล”) เนื่องจากโรงพยาบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านได้ ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิตในทุกช่องทาง
ข้อมูล หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล  หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้        ไม่ว่าทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการส่งต่อมาจากบุคคลที่สาม
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการขอรับบริการจากทางโรงพยาบาลผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือช่องทางอื่นใด เช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การรับสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมถึง การทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของโรงพยาบาล หรือ จากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม (SURVEY) หรือการโต้ตอบทางจดหมายอเล็คทรอนิคส์ (E-MAIL) หรือการกรอกข้อมูลใดๆ ก็ตาม ระหว่างโรงพยาบาลกับท่าน รวมถึงการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น โรงพยาบาลหรือบริษัทในเครือข่ายของโรงพยาบาล ธุรกิจในเครือข่าย ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล หรือบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน หรือหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมจากท่านจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสถานการณ์ในการจัดเก็บรวบรวม และประเภทของบริการที่ท่านร้องขอจากทางโรงพยาบาล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อให้การทำธุรกรรมต่างๆหรือการบริการที่ได้รับการร้องขอจากท่านเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่านหรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้

  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมลล์ เป็นต้น
  • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต หรือรายละเอียดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
  • ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการเกี่ยวกับโรงแรมห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System เป็นต้น
  • ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
  • ข้อมูล การตอบรับและผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
  • ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพและ/หรือเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงสนทนา (ถ้ามี)

แต่ทั้งนี้โรงพยาบาลจะไม่เก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน อาทิเช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรม เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ หรือสถานการณ์ดังต่อไปนี้

  • จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล
  • นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
  • การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
  • ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
  • อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
  • จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร เป็นต้น
  • เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติ ประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆให้แก่ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
  • วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน เป็นต้น
  • รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย       เป็นต้น
  • วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย โดยโรงพยาบาลตามมาตรฐานและมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมหรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อให้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

  • โรงพยาบาลในเครือข่าย โรงพยาบาลที่รับการส่งต่อผู้ป่วย บริษัทในเครือข่าย เป็นต้น
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น โรงแรม บริษัทรถเช่า บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือศูนย์การแพทย์และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ เป็นต้น
  • ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัท บัตรเครดิต หรือเดบิต เป็นต้น
  • เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม
เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของโรงพยาบาล อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตามลิงก์เหล่านั้น นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะไม่มีผลกับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าโรงพยาบาลไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการควบคุมของโรงพยาบาล
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย

ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย

  • โรงพยาบาลจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม โดยโรงพยาบาลจะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ต หรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบการป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร

 
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขออัพเดทหรือขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงสิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
โดยท่านอาจติดต่อโรงพยาบาลผ่านทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตามสิทธิของท่านดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ช่องทางการติดต่อ
คำร้องในการเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น หรือการเรียกร้องสิทธิใดๆ อันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง รายละเอียดการทำนัดหมายแพทย์ และข้อมูลการติดต่อกลับ หรือหากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านสามารถติดต่อที่ โทร: 02-998-9999 หรือตามที่อยู่ต่อไปนี้
บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด
เลขที่ 733/345 , 733/359 หมู่ที่ 8 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130
หมายเลขโทรศัพท์ 02-9989999
บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด
เลขที่ 733/347 หมู่ที่ 8 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130
หมายเลขโทรศัพท์ 02-9989999
e-mail : pdpa@patrangsit.com
ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยโรงพยาบาลจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ท่านทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าวจากท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ หากมีการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็วบนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลที่ www.patrangsit.com

นโยบายนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565
นายรณชิต แย้มสอาด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน

ตั้งค่าคุกกี้