ปัจจุบันปัญหาผิวหนัง โดยเฉพาะ “ฝ้า” มักก่อให้เกืดความรำคาญใจ และความสวยงามบนผิวหน้าของสาวๆในปัจจุบัน เพราะแสงแดด และความร้อนที่มักพบเจอได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน และ”ฝ้า” มักเป็นสิ่งที่รักษาได้ยากเมื่อเป็นแล้ว ดังนั้นบทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักเรื่อง “ฝ้า” ให้มากขึ้น
ฝ้าเกิดจากอะไร ?
ฝ้ามักเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะคนเอเชีย ซึ่งปัจจัยการเกิดฝ้ามีหลายปัจจัย โดยปัจจุบันเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของการกระตุ้นโดยแสงแดด การรับประทานยาคุม การตั้งครรภ์ เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของการรับประทานยาคุม และการตั้งครรภ์ จะทำให้เกิดภาวะ Estrogen ที่สูงเกินไป ซึ่งจะทำให้กระตุ้นการเกิดฝ้าได้ เพราะจะทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่เยอะขึ้น จากปัจจัยทั้งหมดเราก็จะเห็นว่าบริเวณนั้น หรือฝ้า จะมีสีเข้มกว่าปกติ ซึ่งมักจะเจอในบริเวณโหนกแก้ม แล้วก็เหนือริมฝีปากด้านบน ทั้งนี้บริเวณหน้าผากก็พบได้ แต่มักพบเจอได้น้อยกว่า
การรักษาและดูแลผิวหน้าเบื้องต้น
สำหรับการรักษาฝ้าที่ดี่สุด คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดด กรณีไม่สร้างหลีกเลี่ยง แนะนำให้ใส่หมวก กางร่ม และที่สำคัญ คือ การใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป และถ้าจะให้ดีกันแดดควรมีส่วนผสมของพวก Zinc Oxide หรือ TiTanium Dioxide เพราะสารพวกนี้จะช่วยป้องกันแสงที่ตาเรามองเห็นได้ดี
ข้อแนะนำในการทาครีมกันแดด
การเลเซอร์ผิวหน้า เพื่อรักษาฝ้า
ปัจจุบันมีการคิดค้นการใช้เลเซอร์มาช่วยในการรักษาฝ้า ซึ่งได้ผลดีและเห็นได้เร็วกว่า และปัจจุบันเลเซอร์ที่ใช้กันอยู่เป็นเครื่องที่ได้มาตรฐาน มีงานวิจัยรองรับ อย่างเครื่อง Fractional Laser และในส่วนของการรักษาฝ้าจะใช้ในส่วนโหมด Fractional erbium Laser เนื่องจาก Wavelenght จะค่อนข้างสั้น ทำให้ความร้อนไม่เยอะมาก เรียกว่า Thermal Damage ต่อผิวข้างเคียงก็จะไม่เยอะ ทำให้หลังเลเซอร์จะไม่ทิ้งรอยดำ แผลเป็น
หลังเลเซอร์ ดูแลตัวเองอย่างไร
รับชม Video เพื่อทำความเข้าใจเรื่อง"ฝ้า" โดย พญ.ผ่องเพ็ญ ศิริโชติยะกุล ได้ที่ :
พญ.ผ่องเพ็ญ ศิริโชติยะกุล
แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน