วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็ก คือ วัคซีนที่เด็กๆ ทุกคนควรได้รับตั้งแต่แรกเกิดซึ่งวัคซีนที่จำเป็นแต่ละชนิดควรได้รับตามวัยของลูกน้อย เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานและป้องกันโรคภัยต่างๆ เพราะการฉีดวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิต้านทานของโรคให้แก่เด็กในระยะยาว
เด็กแต่ละช่วงวัย ควรได้รับวัคซีนอะไรบ้าง ?
วัคซีนทารกแรกเกิด
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 1 เดือน
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 2 เดือน และ 4 เดือน
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 6 เดือน
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 9 – 12 เดือน
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 12 – 15 เดือน
วัคซีนเสริมที่ควรได้รับ ได้แก่...
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 18 เดือน
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 2 – 4 ปี
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 4 – 6 ปี
วัคซีนเด็กช่วงอายุ 11 – 12 ปี
วัคซีนเสริมที่ควรได้รับ ได้แก่...
การปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับวัคซีน
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่ 1 ควรตรวจภูมิคุ้มกันหลังมีดวัคซีนตับอักเสบบีหรือไม่ แนะนําในกลุ่มไหน ?
ตอบ : ในเด็กที่เกิดจากแม่ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบปี หลังจากได้รับวัคซีนครบแล้ว แนะนำให้ตรวจภูมิคุ้มกันต่อตับอักเสบบี ที่อายุประมาณ 9-12 เดือน เพื่อยืนยันว่ามีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบีจริง และยืนยันว่าไม่ติดไวรัสชนิดด้วย
คำถามที่ 2 วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน มีอาการข้างเคียงที่สำคัญอย่างไร
ตอบ : อาการข้างเคียงที่สำคัญหลังฉีดวัคซีนชนิดนี้ คือ ไข้สูง ร้องกวน ตัวอ่อนปวกเปียก มักเกิดในช่วง 48 ชั่วโมงหลังจากคว้าเงิน หากใช้วัคซีนไอกรนชนิดไม่มีเซลล์โอกาสเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้จะลดลง อาการทางสมองที่รุนแรง (encephalopathy) ที่เกิดขึ้นหลังจากฉีควัคซีนภายใน 7 วัน ถือเป็นข้อห้ามในการรับวัคซีนโอกรบทุกชนิด แต่อย่างไรก็ตามพบได้น้อยมาก ให้ใช้วัคซีนคอตีบ บาดทะยักแทน แต่ถ้ามีอาการแพ้แบบรุนแรง ahabaliyasis) เป็นข้อห้ามในการรับวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ทุกชนิด
คำถามที่ 3 ทำไมต้องฉีดวัคซีนโปลิโอตอนอายุ 4 เดือนร่วมกับหยอดโปลิโอด้วย
ตอบ : ปัจจุบันวัคซีนโปลิโอชนิดกิน (OPV) มีส่วนประกอบเป็นเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ 1 และ 2 เท่านั้น ไม่มีเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่ 2 เนื่องจากไม่พบการระบาดของสายพันธุ์นี้ และคาดว่ากำจัดได้หมดแล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันการระบาดใหม่ที่อาจพบได้จากเชื้อในธรรมชาติ จึงต้องรับวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (PV) ที่มีทั้ง 3 สายพันธุ์ ซึ่งพบว่า เมื่อให้ IPV 1 เข็ม ที่อายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดี จึงแนะนำให้เด็กอายุ 4 เดือน ที่ รับวัคซีน OPV ต้องรับวัคซีน IPV ด้วย
คำถามที่ 4 วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) ควรเริ่มให้อายุเท่าไหร่ กี่เข็ม
ตอบ : ปัจจุบันแนะนำให้เริ่มให้ MMR เข็มแรกที่อายุ 9 เดือน ถึง 1 ปี การที่รับวัคซีนก่อนหน้าเร็วเกินไป วัคซีนจะไม่สามารถกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากยังมีภูมิคุ้มกันแม่ที่ยังหลงเหลืออยู่ ขัดขวางการสร้างภูมิในตัวของเด็ก เข็มที่สองให้เมื่ออายุ 18 เดือน
คำถามที่ 5 วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็น ต่างจากชนิดเดิมอย่างไร ?
ตอบ : วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีปัจจุบัน ผลิตจากไวรัสที่อ่อนกำลังลง นำมาทดแทนวัคซีนเดิมที่ผลิตมาจากเชื้อตาย วัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่อ่อนกำลังต้องฉีด 2 เข็ม มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับวัคซีนเชื้อตายที่ต้องฉีด 3 เข็ม และอาจพบผลข้างเคียง เช่น ปวด บวม แดง ร้อน ไข้ ปวดศีรษะ ลมพิษ หรือภาวะสมองอักเสบ เฉียบพลันได้ อย่างไรก็ตามวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นนี้ห้ามใช้ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
คำถามที่ 6 วัคซีนเอชพีวี (HPV) สามารถให้ในเด็กชายได้หรือไม่
ตอบ : สามารถให้ได้ วัคซีนนี้สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งที่ทวารหนักได้ แต่ปัจจุบันวัคซีนนี้ยังไม่ได้บรรจุเป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กชายไทย วัคซีนเอชพีวีชนิด 4 สายพันธุ์มีประโยชน์ในการป้องกันโรคหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ และทวารหนักได้ด้วย
คำถามที่ 7 ถ้าได้รับวัคซีนไม่ครบ จำเป็นต้องเริ่มฉีดใหม่หมดหรือไม่
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ ให้ฉีดต่อจนครบ
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน